จากวันแรกของการเริ่มชีวิตการศึกษาในชั้นเตรียมอนุบาลด้วยอายุ 2 ขวบ 4 เดือนของธิธัญ จนถึงวันนี้ที่อายุ 5 ปี ไม่มีวันไหนที่ลูกบ่นไม่อยากไป รร. ค่ะ โดยปกติระหว่างทางกลับบ้านในตอนเย็น ธิธัญมักเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่ รร. ให้คุณแม่ฟังเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องเพื่อน คุณครู หรือกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันโดยที่คุณแม่ไม่จำเป็นต้องเริ่มซักถามก่อน
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เอง เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าธิธัญมีความสุข สนุกกับการใช้ชีวิตที่ รร. มากๆ
ด้วยแนวทางการสอนแบบบูรณาการ โดยมีหัวใจหรือจุดศูนย์กลางอยู่ที่ตัวเด็กๆเป็นหลัก คุณแม่มองว่านี่คือจุดเด่นของรร.อนุบาลกุ๊กไก่ที่สร้างให้วุฒิภาวะทางอารมณ์ และวุฒิภาวะทางการศึกษาของเด็กได้เติบโตไปพร้อมๆกันอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน เนื่องจากการปลูกฝังกระบวนการคิดในวัยเด็กเล็ก คือ พื้นฐานในการต่อยอดในอนาคต ไม่ว่าจะด้านการใช้ชีวิต หรือทางด้านการศึกษา
รร.อนุบาลกุ๊กไก่ได้หล่อหลอมและสร้างเด็กๆขึ้นมาให้มีกระบวนการคิดเชิงวิเคราะห์ กล้าพูด กล้าแสดงออก ผ่านการเล่น การอบรมอย่างอ่อนโยนจากคุณครูทุกท่านใน รร.
ในช่วงก่อนที่ลูกจะเริ่มเข้า รร. สำหรับคนเป็นแม่ย่อมมีความกังวล ห่วงไปสารพัด แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของครูไก่ ที่จัดให้ผู้ปกครองสามารถเข้าเรียนกับลูกได้ช่วง 3 วันแรก เพื่อให้ผู้ปกครองได้ทำความรู้จักกับครู และได้เห็นกิจกรรมในแต่ละวันของเด็ก อีกทั้งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้เด็ก ว่าพ่อแม่กับครูรู้จักกัน เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าครูไม่ใช่คนแปลกหน้า ลดความกังวลให้เด็กเวลาที่ต้องอยู่ที่ รร.โดยปราศจากพ่อแม่
จึงทำให้ตลอดเวลา 3 ปีที่ผ่านมา คุณพ่อคุณแม่ไม่มีความกังวลเลยเวลาที่ธิธัญอยู่ที่ รร. เพราะมั่นใจในตัวผู้บริหารและคณะคุณครูเป็นอย่างยิ่ง
หากจะให้คำนิยามสำหรับรร.อนุบาลกุ๊กไก่ คุณแม่ขอใช้คำว่า “อบอุ่น” ค่ะ อบอุ่นทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับคุณครูแต่ละท่าน น้ำเสียงและการแสดงออกระหว่างคุณครูกับเด็กนั่นสัมผัสได้ถึงความใส่ใจในตัวเด็กๆอย่างจริงใจค่ะ
ยังมีรายละเอียดและความประทับใจอื่นๆอีกมากมายจริงๆค่ะ ที่ไม่สามารถบรรยายได้หมดสำหรับ รร.อนุบาลกุ๊กไก่ แต่สุดท้ายนี้อยากจะกล่าวคำขอบคุณแด่ รร. ที่ช่วยดูแลธิธัญมาตลอดระยะเวลา 3 ปีค่ะ คุณแม่ภูมิใจและมั่นใจว่าเลือก รร. แรกในชีวิตของธิธัญได้ถูกต้องที่สุดค่ะ