งานนิทรรศการProject Approach ของโรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่ เป็นงานแสดงผลงานของเด็ก ๆ ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี ในแต่ละปีจะมีผู้ปกครอง คุณครูจากสถานศึกษาต่าง ๆ และผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมจำนวนมาก ซึ่งปีนี้ห้องนิทรรศการ “ปลา” ของเด็ก ๆ ชั้นอนุบาล 2/2 ดูสะดุดตาจาก “อุโมงค์ปลา” ขนาดใหญ่ที่เด็กและผู้ใหญ่สามารถเดินเข้าไปชมได้ แต่การที่เด็กตัวน้อย ๆ จะสามารถคิดออกแบบและประดิษฐ์สิ่งนี้ได้ ต้องเกิดจากความรู้และประสบการณ์ของแต่ละคนที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับปลาอย่างลุ่มลึก จึงจะสามารถเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของผลงานได้เป็นอย่างดี มาดูกันว่าเด็ก ๆ เรียนรู้กันอย่างไรถึงรู้จักปลาได้อย่างลึกซึ้ง
การเรียนรู้แบบ Project Approach เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เฉพาะเจาะจงตามความสนใจของเด็กที่ช่วยกันเลือกตามแนวทางประชาธิปไตย ได้ตั้งประเด็นคำถามที่เป็นข้อสงสัยเกี่ยวกับหัวข้อเรื่อง และได้คิดวิธีการสืบค้นและลงมือหาคำตอบด้วยตนเอง โดยคุณครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกและคอยแนะนำเด็ก ทำให้เด็กได้พัฒนาตนเองอย่างเต็มตามศักยภาพ เด็ก ๆ ได้ช่วยกันเสนอหัวข้อเรื่องหลากหลาย สรุปได้ 5 เรื่อง ได้แก่ ปลา สายรุ้ง ทะเล กบ กระต่าย เมื่อลงคะแนนเลือกแล้วได้ช่วยกันสรุปผลจากกราฟ เรื่อง “ปลา” ได้คะแนนมากที่สุด 11 คะแนน จึงตกลงร่วมกันว่าจะเรียนรู้เรื่องปลา
หลังจากนั้นเด็ก ๆ ได้ถ่ายทอดประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับปลาเป็นผลงานหลากหลายรูปแบบ เช่น วาดภาพ การปั้นดินน้ำมัน การประดิษฐ์ด้วยเศษวัสดุ เป็นต้น และได้บอกเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง เช่น “ปลามีก้าง ก้างอยู่ในตัวปลา ก้างปลาแข็ง กินก้างปลาไม่ได้จะติดคอ” “หนูเคยเห็นปลาที่เอ็มโพเรียม” “ที่บ้านเลี้ยงปลาตัวเล็ก เลี้ยงในโหล ปลามีสีสวย” เป็นต้น เมื่อเด็ก ๆ ได้พูดคุยกันและช่วยกันเสนอสิ่งที่สงสัยเกี่ยวกับปลา โดยคุณครูช่วยสรุปเป็นกลุ่มคำถามได้ 7 คำถาม ได้แก่ ปลาคืออะไร ปลามีส่วนประกอบอะไรบ้าง ปลาเจริญเติบโตอย่างไร ปลามีแบบใดบ้าง ปลาอาศัยอยู่ที่ไหน ปลาเอาไปทำอะไรได้บ้าง ปลามันกัดไหม และได้ช่วยกันเสนอวิธีค้นหาคำตอบ เช่น “google หนังสือ ถามคนที่รู้เรื่องปลา เอาปลามาลองเลี้ยง เอาปลามาหั่นดูข้างในของปลา” เป็นต้น นี่เป็นเพียงการเรียนรู้ระยะเริ่มต้น ใช้เวลา 1 สัปดาห์ เตรียมความพร้อมให้เด็กได้สืบค้นหาคำตอบต่อไป
เข้าสู่ระยะที่ 2 เป็นช่วงเวลาของการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เรียนรู้ ใช้เวลา 5 สัปดาห์ ในการค้นหาคำตอบด้วยวิธีที่หลากหลาย เริ่มจากเด็ก ๆ ร่วมกันคิดคาดคะเนคำตอบกันก่อนว่า “ปลาคืออะไร” แล้วจึงช่วยกันค้นหาความหมายของปลาจากหนังสือ เช่น หนังสือพจนานุกรม หนังสือเกี่ยวกับปลา เป็นต้น และช่วยกันพิมพ์ค้นหาใน Google โดยคุณครูช่วยอ่านให้เด็ก ๆ ฟัง และให้เด็กถ่ายทอดความเข้าใจของแต่ละคนเป็นภาพวาด แล้วนำมาเล่าให้คุณครูและเพื่อน ๆ ฟัง และยังมีประเด็นสงสัยเพิ่มเติมอีกว่า “อะไรเอ่ยที่เรียกปลาแต่ไม่ใช่ปลา” เด็ก ๆ ได้ช่วยกันแสดงความคิดเห็น เช่น “ปลาดาว ปลาหมึก ไม่ใช่ปลาเพราะมันไม่มีกระดูกสันหลัง ม้าน้ำเป็นปลา” เป็นต้น
เด็ก ๆ ได้เสนอคุณครู ให้มีตู้ปลาและเลี้ยงปลาในห้องเรียนเพื่อสังเกตธรรมชาติของปลา ทั้งรูปร่าง ลักษณะ การเคลื่อนที่ การกินอาหาร โดยเด็ก ๆ ช่วยกันสืบค้นในอินเทอร์เน็ต หาวิธีการเลี้ยงปลาในตู้ที่ถูกต้อง วิธีการเปลี่ยนน้ำในตู้ปลา ลักษณะของปลาหางนกยูง ปลาคาร์ฟ ปลาม้าลายเรืองแสง และปลานีออนที่เลี้ยงไว้ และดูแลให้อาหาร ลงมือทำความสะอาด เปลี่ยนน้ำตู้ปลาด้วยตัวเองอย่างเป็นขั้นตอน ทำให้เด็ก ๆ ได้สังเกตปลาหลายชนิดร่วมกับปลาจำลองและบัตรภาพ สามารถบอกเล่าลักษณะของปลาแต่ละชนิดได้ เช่น “ปลาคาร์ฟตัวยาว มีหางยาว มีเกล็ดสีแดง มีครีบรูปทรงเหมือนสามเหลี่ยม” “ปลานีออนตัวมันเล็กกว่าปลาหางนกยูง ตัวเท่า ๆ กับปลาม้าลายเรืองแสง” เป็นต้น
และได้ค้นหาเพิ่มเติม เพื่อให้คลายสงสัยเรื่อง “ปลามีส่วนประกอบอะไรบ้าง” จนสรุปคำตอบร่วมกันได้ว่า ปลามี 3 ส่วน คือ หัว ลำตัว และหาง มีครีบอยู่ด้านข้างลำตัว มีอวัยวะที่อยู่ข้างนอกและข้างใน เพื่อให้เห็นอวัยวะภายในของปลาจริง ๆ คุณครูได้นำปลานิลและปลาดุกมาผ่าให้เด็ก ๆ ได้สำรวจและสังเกตอวัยวะภายในและเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้จากภาพและหนังสือ ซึ่งเด็ก ๆ นำสิ่งที่สังเกตเห็นมาวาดภาพและบอกเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังได้ เช่น “ปลานิลมีเกล็ดเป็นสีขาว ๆ มีตับปลาอยู่ข้างใน สีออกแดง ๆ มีไส้ปลายาว ๆ ปลาดุกไม่มีเกล็ด” เป็นต้น และช่วยกันทำเป็น Venn Diagram ที่สวยงาม และคุณครูยังได้จัดหาปลาทูและปลาโอซึ่งเป็นปลาทะเล มาให้เด็ก ๆ สำรวจเพิ่มเติม และบอกความเหมือนและแตกต่างได้เช่นกัน หลังจากสำรวจปลาแต่ละชนิดเสร็จแล้ว เด็ก ๆ ได้แสดงฝีมือเปลี่ยนปลาทั้งหลายให้กลายเป็นอาหารกลางวัน เช่น ปลานิลชุบแป้งทอด ปลาดุกฟู ข้าวคลุกปลาทู เป็นต้น โดยคุณครูคอยดูแลช่วยเหลือให้เด็กปลอดภัยในการทำอาหาร
เพื่อให้ได้คำตอบที่ชัดเจนว่า “ปลามีส่วนประกอบอะไร / ปลามีซี่โครงหรือเปล่า / ปลาว่ายน้ำได้อย่างไร” เด็ก ๆ จึงหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ของปลาเปรียบเทียบกับของคน แล้วจึงช่วยกันสรุปข้อมูล เช่น “คนก็มีจมูกไว้ดมกลิ่นแล้วเอาไว้หายใจ ปลามีเหงือกเอาไว้หายใจ ปลาหายใจเอาออกซิเจนเข้าไปแล้วเอาคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเหมือนคน” เป็นต้น เด็ก ๆ สืบค้นต่อเพื่อหาคำตอบในเรื่อง “ปลาเจริญเติบโตอย่างไร / ปลากินอะไรเป็นอาหาร” โดยมีการตั้งสมมติฐานไว้ก่อน และเมื่อค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม สรุปร่วมกันได้ว่า “ปลาเจริญเติบโตได้ต้องกินอาหาร กินทั้งพืชและเนื้อ ปลาส่วนใหญ่ออกลูกเป็นไข่ แล้วค่อย ๆ กลายเป็นปลาผู้ใหญ่” เป็นต้น และมีการสืบค้นหาคำตอบว่า “ปลามีแบบใดบ้าง” ช่วยกันสรุปได้ว่า “แบ่งปลาตามที่อยู่อาศัยของปลา มีปลาน้ำเค็มกับปลาน้ำจืด” แล้วก็มาถึงวันที่เด็ก ๆ รอคอย วันที่ได้ไปทัศนศึกษาที่ “Sea Life Bangkok Ocean World” สยามพารากอน ซึ่งเด็ก ๆ ได้เรียนรู้และสอบถามในสิ่งที่สงสัยกับวิทยากร ได้สำรวจและสังเกตสิ่งต่าง ๆ เก็บเป็นความทรงจำและประสบการณ์แล้วนำมาเล่าให้เพื่อน ๆ และคุณครูฟังอย่างสนุกสนาน เช่น “ที่ Sea Life ทำที่อยู่อาศัยของปลาให้เหมือนในทะเล มีน้ำทะเล มีต้นไม้ มีสาหร่าย มีปะการัง ปลาฉลามกับปลากระเบนอยู่ในอุโมงค์ปลา” เป็นต้น
แล้วจึงสรุปร่วมกันได้ว่า “ปลาอาศัยอยู่ที่ไหน” ในประเด็นสงสัยเรื่อง “ปลาเอาไปทำอะไรได้บ้าง / ประโยชน์ของปลา” มีการสืบค้นข้อมูลจนได้คำตอบ เช่น “ปลาทำอาหารได้ มีโปรตีน ปลาเอาไปเลี้ยงได้” เป็นต้น มาถึงเรื่องสุดท้ายที่สงสัยว่า “ปลามันกัดไหม” เด็ก ๆ ได้แสดงความคิดเห็นร่วมกันพร้อมทั้งค้นหาโทษของปลา เช่น “ปลามันไม่กัดกินคน ปลาปักเป้าเป็นปลาที่มีพิษกินไม่ได้” เป็นต้น ทุกครั้งหลังจากได้คำตอบของแต่ละประเด็นสงสัยแล้ว เด็ก ๆ จะได้ถ่ายทอดสิ่งที่ได้เรียนรู้ใหม่ออกมาเป็นผลงานสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบ ทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่ม แล้วนำผลงานมาบอกเล่าแลกเปลี่ยนกับเพื่อน ๆ
การเรียนรู้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 7 ซึ่งเป็นระยะสรุป เด็ก ๆ ช่วยกันบอกเล่าทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ครบทุกประเด็นคำถาม และวาดภาพสรุปเรื่อง “ปลา” อีกทั้งยังได้ช่วยคุณครูออกแบบ จัดทำและตกแต่งนิทรรศการให้มีจุดสนใจ คือ อุโมงค์ปลาขนาดใหญ่ ที่มีรายละเอียดที่น่าสนใจ เช่น การทำให้อุโมงค์ใสเพื่อให้เห็นปลาด้านนอกได้ พื้นทางเดินมีปลาและสัตว์น้ำหลายชนิด มีจุดถ่ายภาพคู่กับปลาการ์ตูนตัวใหญ่ได้ เป็นต้น พร้อมทั้งจัดทำทะเลจำลอง และตกแต่งห้องนิทรรศการด้วยผลงานที่เด็ก ๆ ได้สร้างสรรค์ไว้หลากหลายรูปแบบ หากท่านมีโอกาสได้เยี่ยมชมนิทรรศการ ต้องไม่พลาดที่จะเข้าไปเดินชมใน “อุโมงค์ปลา”
โรงเรียนอนุบาลกุ๊กไก่
3810 ถนนพระราม 4 , แขวงคลองตัน เขตคลองเตย, กรุงเทพ, 10110
โทรศัพท์: (0) 2 249-0081-3เยี่ยมชมเว็บไซต์
เว็บไซต์